วันนี้ (12 พ.ค. 64) ผู้สมัครตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือไทยพีบีเอส ที่ผ่านการคัดเลือกรอบที่ 1 จากคณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการ ส.ส.ท. จำนวน 2 คน คือ รศ. ดร.วิลาสินี พิพิธกุล ผู้อำนวยการ ส.ส.ท. คนปัจจุบัน และ ผศ. ดร.มานพ กาญจนบุรางกูร อดีตผู้อำนวยการองค์การสะพานปลา โดยทั้งสองคนได้เข้ารับการสัมภาษณ์เพื่อให้คณะกรรมการนโยบาย ส.ส.ท. ดำเนินการคัดเลือกรอบสุดท้าย
คณะกรรมการนโยบายทั้ง 9 คน มีมติเป็นเอกฉันท์เลือก รศ. ดร.วิลาสินี พิพิธกุล เป็นผู้อำนวยการ ส.ส.ท.
ปัจจุบัน รศ. ดร.วิลาสินี พิพิธกุล ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ซึ่งกำลังจะหมดวาระในเดือนกรกฎาคมนี้ ก่อนหน้านี้ รศ. ดร.วิลาสินี เคยดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการ ส.ส.ท. และเคยเป็นผู้อำนวยการอาวุโส สำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สำนักกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) รวมถึงเคยเป็นรองคณบดีฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ และคณะกรรมการบริหาร คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
รศ. ดร.วิลาสินี พิพิธกุล จบการศึกษาในระดับปริญญาเอก และปริญญาโทด้านสตรีศึกษาจาก University of Kent ประเทศอังกฤษ ปริญญาโทและปริญญาตรีจากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ประธานกรรมการนโยบายชี้มติการคัดเลือก ผู้อำนวยการ ส.ส.ท. เป็นเอกฉันท์ กระบวนการสรรหาชัดเจน โปร่งใส
รศ. ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ประธานกรรมการนโยบาย ส.ส.ท. ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการคัดเลือกผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ว่ามติของคณะกรรมการนโยบายเป็นเอกฉันท์ในการคัดเลือก รศ. ดร.วิลาสินี พิพิธกุล เป็นผู้อำนวยการ ส.ส.ท. และเชื่อมั่นในกระบวนการสรรหาว่าชัดเจน โปร่งใส พร้อมกันนี้ประธานกรรมการนโยบายได้ขอบคุณผู้สมัครเข้ารับการสรรหาผู้อำนวยการ ส.ส.ท.ครั้งนี้ทุกคนที่ให้ความสนใจในสื่อสาธารณะแห่งนี้
ผู้ทรงคุณวุฒิระดับสูงร่วมสรรหาโปร่งใส
ในการสรรหาผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ครั้งนี้ รศ. ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง กล่าวว่าคณะกรรมการนโยบายได้แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิระดับสูงจำนวน 9 คน ได้สรรหาผู้สมัครส่งให้คณะกรรมการนโยบายคัดเลือก 2 คนในวันนี้ หลังจากนั้นกรรมการนโยบายได้ศึกษาประวัติ คุณสมบัติ และวิดีโอบันทึกการแสดงวิสัยทัศน์ของทั้ง 2 คน ที่แสดงต่อคณะกรรมการสรรหา ก่อนที่จะเชิญผู้ที่ผ่านการสรรหาทั้ง 2 มาสัมภาษณ์เป็นการเจาะลึกต่อเนื่องจากที่ได้แสดงวิสัยทัศน์ โดยใช้เวลาคนละประมาณ 1 ชั่วโมง
หลังจากสัมภาษณ์ทั้ง 2 คน คณะกรรมการนโยบายจึงได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ เลือก รศ. ดร.วิลาสินี พิพิธกุล ซึ่งเป็นผู้อำนวยการคนปัจจุบันที่กำลังจะหมดวาระในวันที่ 24 กรกฎาคม 2564 ได้ดำรงตำแหน่งต่อไป
ประธานกรรมการนโยบายและกรรมการนโยบายทั้งคณะเห็นว่า คณะกรรมการสรรหาได้ทำงานค่อนข้างสมบูรณ์ ในการสรรหาครั้งนี้มีผู้สมัครทั้งหมด 6 คน โดยมี 1 คนที่ถอนตัว จึงได้เชิญทั้ง 5 คนมาแสดงวิสัยทัศน์ทั้งหมด พร้อมกับดูองค์ประกอบ ใบสมัคร ตรวจสอบคุณสมบัติ รับฟังวิสัยทัศน์ และให้คะแนน โดยคณะกรรมการสรรหาทำงานโดยอิสระ และกำหนดเกณฑ์เรียบร้อยว่า ถ้าใครผ่าน 60 คะแนนจากร้อย จึงจะได้รับเสนอชื่อเข้ามาให้คณะกรรมการนโยบายเลือก ซึ่งประธานกรรมการนโยบายเห็นว่าเป็นกระบวนการที่รัดกุม และมีผู้ที่ผ่านเกณฑ์ 60 คะแนนขึ้นไปจำนวน 2 คน
ในโอกาสนี้ประธานกรรมการนโยบายได้ขอบคุณคณะกรรมการสรรหาที่ทุ่มเทเวลาทำงานกันอย่างเต็มที่ “ผมขอขอบคุณคณะกรรมการสรรหาที่ได้เข้ามาช่วยงานไทยพีบีเอส ซึ่งแต่ละท่านก็เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ดำเนินกระบวนการสรรหาอย่างชัดเจน โปร่งใส”
ความคาดหวังต่อผู้อำนวยการ ส.ส.ท. คนใหม่ในภาวะวิกฤต
ประธานกรรมการนโยบาย ส.ส.ท. เห็นว่า การบริหารสื่อในขณะนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย
"ประเด็นแรก เป็นเรื่องการบริหารสื่อในภาวะวิกฤต ในขณะที่บ้านเมืองมีวิกฤตอยู่ 2-3 เรื่อง เรื่องที่หนึ่ง คือ เรื่องโควิด ซึ่งกระทบไปถึงเรื่องเศรษฐกิจและการเมือง จะเกิดปัญหาคนตกงาน ไม่มีรายได้ ก็นับว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่ไทยพีบีเอสต้องคิดว่าจะทำอย่างไรเพื่อจะช่วยประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤตเหล่านี้ แน่นอนว่าไทยพีบีเอสแก้วิกฤตด้วยตัวเองไม่ได้ แต่ต้องทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ซึ่งผู้อำนวยการ ส.ส.ท. คนใหม่ และพนักงานทุกคน จะต้องคิดเรื่องนี้ให้ครอบคลุมและรอบด้าน"
"ประเด็นที่ 2 คือเรื่องสื่อที่หลอมรวมกันหมดแล้ว ไม่ใช่มีสื่อทีวี วิทยุ เหมือนเดิมเท่านั้น แต่เป็นสื่อออนไลน์หลากหลายประเภท เพราะฉะนั้น ผู้อำนวยการ ส.ส.ท. คนใหม่ จะต้องทำให้ไทยพีบีเอสสามารถเข้าไปช่วยบ้านเมืองในช่องทางที่หลากหลายได้"
"ประเด็นที่ 3 ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัย แปลว่าเราจะมีสัดส่วนคนทำงานน้อยลง แต่สัดส่วนผู้สูงอายุจะมากขึ้น เด็กเกิดใหม่น้อยลง ซึ่งเป็นปัญหาท้าทายใหญ่มากว่าเราจะสร้างระบบรองรับอย่างไร ผมคิดว่าสามสิ่งนี้เป็นวิสัยทัศน์หนึ่งที่ รศ. ดร.วิลาสินี ได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อคณะกรรมการสรรหาว่าเป็นปัญหาท้าทาย ซึ่งคณะกรรมการนโยบายเห็นด้วย ว่านี่คือสิ่งที่ไทยพีบีเอสจะต้องเผชิญในอนาคต และจะต้องพยายามทำตรงนี้ให้ได้"
นอกจากนี้ ประธานกรรมการนโยบาย ส.ส.ท.ยังย้ำด้วยว่าด้านการบริหารองค์การ ผู้อำนวยการ ส.ส.ท.จะต้องตระหนักว่า ไทยพีบีเอสเป็นองค์กรสื่อสาธารณะ ซึ่งประชาชนจำนวนไม่น้อยยังไม่เข้าใจว่าสื่อสาธารณะคืออะไร “การเป็นสื่อสาธารณะท่ามกลางความขัดแย้งของสังคมเป็นเรื่องยากเพราะสื่อสาธารณะไม่สามารถเข้ากับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ ต้องนำเสนอทั้งสองฝั่ง เมื่อส่งผลกระทบก็จะถูกกล่าวหาจากทั้งสองฝ่ายได้ นับเป็นสิ่งท้าทายที่ผู้อำนวยการ ส.ส.ท. คนใหม่ จะต้องฟันฝ่าไปให้ได้”
ขอบคุณผู้สมัครทุกคน
พร้อมกันนี้ ประธานกรรมการนโยบาย ส.ส.ท. ได้ขอบคุณผู้สมัครเข้ารับการสรรหาครั้งนี้
“สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณผู้ที่มาสมัครทุกคน พวกเราถือว่าท่านทั้งหลายที่สนใจมาสมัครตำแหน่ง ผู้อำนวยการ ส.ส.ท. เป็นคนที่คัดเลือกตัวเอง อยากจะเข้ามาทำงานกับองค์การสาธารณะแห่งนี้ ซึ่งนับเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง แม้ว่าท่านจะไม่ได้รับเลือก แต่บ่งบอกถึงความมีใจต่อองค์การสาธารณะที่สนใจที่จะมาช่วยกัน แม้ว่าครั้งนี้ท่านจะไม่ได้รับเลือก ไม่ได้หมายความว่าท่านไม่มีความสามารถ แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในแต่ละกาลเวลา ก็ขอขอบคุณที่ท่านกรุณามาสมัครในครั้งนี้”
ดาวน์โหลดเอกสาร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ประกาศรายชื่อผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกรอบที่ 1 เพื่อรับการสรรหาเข้าดำรงตำแหน่ง ผอ.ส.ส.ท. รอบสุดท้าย
- ประกาศกำหนดการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้สมัครรับการสรรหาเข้าดำรงตำแหน่ง ผอ.ส.ส.ท. ในการคัดเลือกรอบที่ 1
- รายชื่อบุคคลผู้สมัครรับการสรรหาเข้าดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการ ส.ส.ท. (กรณีขยายเวลา)
- รายชื่อบุคคลผู้สมัครรับการสรรหาเข้าดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการ ส.ส.ท.
- ไทยพีบีเอส ขยายเวลาเปิดรับสมัคร ผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ถึง 23 มี.ค. 64
- ไทยพีบีเอส เปิดรับ ผอ.ส.ส.ท. ตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. - 5 มี.ค. 64
- ประธาน กนย.ไทยพีบีเอส คาดหวัง สรรหาได้ ผอ. ที่มีความสามารถสูง นำพาสังคมไปสู่การแก้ปัญหา
- ไทยพีบีเอสเตรียมสรรหาผู้อำนวยการใหม่ ตั้ง 9 กรรมการสรรหา เฟ้นหาผู้อำนวยการไทยพีบีเอสคนใหม่ เปิดรับสมัครต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2564