ตามที่องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) ได้มีประกาศ ลงวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2564 เรื่อง การรับสมัครบุคคลเพื่อรับการสรรหาเข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย และตามประกาศฯ กำหนดเวลาเปิดรับสมัคร 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 ถึงวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2564 แต่เนื่องจากมีผู้สมัครเพื่อรับการคัดเลือกในตำแหน่งดังกล่าวจำนวนน้อยราย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสาธารณะ คณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการ ส.ส.ท. จึงมีมติให้ขยายเวลารับสมัครฯ ออกไปอีก 15 วันนับแต่วันประกาศขยายเวลารับสมัครฯ นั้น จากที่สิ้นสุดในวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2564 ออกไปเป็นสิ้นสุดในวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2564 ทั้งนี้ เงื่อนไขอื่น ๆ ให้เป็นไปตามประกาศเดิมทุกประการ
คุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัคร
พระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 มาตรา 32 กำหนดให้ผู้อำนวยการต้องเป็นผู้สามารถทำงานให้แก่องค์การฯ ได้เต็มเวลาและเป็นผู้นำและรับผิดชอบในการบริหารกิจการขององค์การฯ และการผลิตรายการตามนโยบายของคณะกรรมการนโยบาย และต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้
- มีสัญชาติไทย
- มีอายุไม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์ ในวันที่ได้รับการแต่งตั้ง
- มีความรู้ความเข้าใจและมีความเชี่ยวชาญหรือมีประสบการณ์ในกิจการวิทยุกระจายเสียงกิจการวิทยุโทรทัศน์หรือการสื่อสารมวลชน
- ไม่มีลักษณะต้องห้ามอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้
4.1 ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
4.2 ไม่เป็นบุคคลที่เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป โดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึง 5 ปี ในวันยื่นใบสมัคร เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท
4.3 ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือ รัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง หรือถือว่ากระทำการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ
4.4 ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากงาน เพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือถือว่ากระทำการทุจริตและประพฤติมิชอบในการปฏิบัติงาน
4.5 ไม่เคยต้องคำพิพากษา หรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ - ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น กรรมการหรือผู้ดำรงตำแหน่งซึ่งรับผิดชอบการบริหารพรรคการเมือง ที่ปรึกษาพรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าที่พรรคการเมือง
- ไม่เป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอื่นของรัฐ เจ้าหน้าที่ หรือลูกจ้างขององค์การ หรือที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญที่มีสัญญาจ้างกับองค์การฯ
- ไม่เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในกิจการที่กระทำกับองค์การฯ หรือในกิจการที่เป็นการแข่งขันกับกิจการขององค์การฯ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม เว้นแต่การเข้าบริหารหรือเข้าร่วมดำเนินกิจการร่วมทุนกับบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นตามที่คณะกรรมการนโยบาย หรือคณะกรรมการบริหารมอบหมาย
ดังนั้น ณ วันที่ยื่นใบสมัครผู้สมัครจะต้องมีคุณสมบัติตามข้อ 1 - 4 ทุกข้อ ในกรณีที่ผู้สมัครไม่มีคุณสมบัติตามข้อ 5 - 7 และได้รับการคัดเลือกเข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ผู้ได้รับการคัดเลือกจะต้องลาออกจากตำแหน่งที่มีลักษณะต้องห้าม ก่อนได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการนโยบาย หากผู้ได้รับการคัดเลือกไม่ดำเนินการให้แล้วเสร็จครบถ้วน ถือเป็นการขาดคุณสมบัติ ให้ถือเป็นเหตุยกเลิกการคัดเลือก หรือเป็นเหตุที่จะบอกเลิกสัญญาจ้างได้
คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งของผู้สมัคร
มีความรู้และประสบการณ์ในการบริหารจัดการองค์กรหรือกิจการ ดังต่อไปนี้
- เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารระดับสูงในหน่วยงานประเภทใดประเภทหนึ่งดังต่อไปนี้
1.1 เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ โดยดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดขององค์กรนั้น เป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 3 ปี
1.2 เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารจากหน่วยงานภาคเอกชนที่มีรายได้ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาทต่อปี หรือมีพนักงานในองค์กรไม่ต่ำกว่า 200 คน โดยดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดขององค์กรนั้น เป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 3 ปี นับถึงวันยื่นใบสมัคร
1.3 เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารสถาบันวิชาการด้านสื่อสารมวลชนหรือนิเทศศาสตร์ โดยดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าคณบดี เป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 3 ปี นับถึงวันยื่นใบสมัคร - ผู้มีคุณสมบัติตาม ข้อ (1) ต้องมีประสบการณ์ในการบริหารไม่น้อยกว่า 10 ปี โดยมีผลสำเร็จในการบริหารงานเป็นที่ประจักษ์
- มีความรู้ความเข้าใจเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 เข้าใจภูมิทัศน์สื่อ ความเป็นสื่อสาธารณะ และมีประสบการณ์การบริหารเชิงกลยุทธ์
การสมัครเข้ารับการคัดเลือก
ขยายเวลารับสมัครบุคคลเพื่อรับการสรรหาเข้าดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการ ส.ส.ท. จากที่สิ้นสุดในวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2564 ออกไปเป็นสิ้นสุดในวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2564 โดยสามารถสมัครด้วยตนเองหรือสมัครโดยการเสนอชื่อจากองค์กร ดังนี้
- การสมัครด้วยตนเอง
- ผู้ที่สนใจสมัครเข้ารับการคัดเลือก จะต้องยื่นใบสมัครตามแบบที่คณะกรรมการสรรหาฯ กำหนด พร้อมเอกสารประกอบการสมัคร
- ส่งใบสมัคร พร้อมเอกสารหลักฐานภายในวันที่ 23 มี.ค. 64 (ในกรณีที่ส่งใบสมัครทางไปรษณีย์ ให้ถือวันที่ลงประทับตราไปรษณีย์)
- ผู้ที่สนใจสมัครเข้ารับการคัดเลือก จะต้องยื่นใบสมัครตามแบบที่คณะกรรมการสรรหาฯ กำหนด พร้อมเอกสารประกอบการสมัคร
- การสมัครโดยการเสนอชื่อจากองค์กร
- องค์กรที่เป็นหน่วยงานรัฐ เอกชน องค์กรสาธารณะประโยชน์ หรือสถาบันวิชาการ มีสิทธิเสนอชื่อบุคคลหนึ่งรายชื่อ โดยบุคคลผู้ถูกเสนอชื่อยื่นใบสมัครพร้อมเอกสารประกอบตามหัวข้อการสมัครด้วยตนเอง และหัวหน้าองค์กรที่เสนอชื่อลงนามรับรอง ตามแบบใบคำขอเสนอชื่อที่คณะกรรมการสรรหาฯ กำหนด ทั้งนี้ในการเสนอชื่อบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหา จะต้องได้รับความยินยอมจากบุคคลนั้นด้วย
การส่งใบสมัครและเอกสารประกอบ
ผู้สนใจส่งใบสมัครและใบคำขอเสนอชื่อ (ถ้ามี) และเอกสารประกอบได้ 2 วิธี คือ
- การยื่นด้วยตนเอง
- ให้ยื่นใบสมัครและใบคำขอเสนอชื่อ (ถ้ามี) ณ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ชั้น 1 อาคารอำนวยการ จนถึง 23 มี.ค. 64 เวลา 09.00 - 18.00 น. (ทุกวัน เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์) และให้นำส่งข้อมูลหลักฐานการสมัครทั้งหมดในรูปแบบไฟล์ PDF มายังอีเมล DirectorTPBS@thaipbs.or.th ภายในวันที่ 23 มี.ค. 64 [แผนที่]
- ให้ยื่นใบสมัครและใบคำขอเสนอชื่อ (ถ้ามี) ณ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ชั้น 1 อาคารอำนวยการ จนถึง 23 มี.ค. 64 เวลา 09.00 - 18.00 น. (ทุกวัน เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์) และให้นำส่งข้อมูลหลักฐานการสมัครทั้งหมดในรูปแบบไฟล์ PDF มายังอีเมล DirectorTPBS@thaipbs.or.th ภายในวันที่ 23 มี.ค. 64 [แผนที่]
- การยื่นทางไปรษณีย์
- ให้ส่งใบสมัครและใบคำขอเสนอชื่อ (ถ้ามี) ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ ประทับตราไปรษณีย์ ภายในวันที่ 23 มี.ค. 64 โดยจ่าหน้าซองถึงประธานกรรมการสรรหาผู้อำนวยการ ส.ส.ท. องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย เลขที่ 145 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 และให้นำส่งข้อมูลหลักฐานการสมัครทั้งหมดรวมถึงหลักฐานการส่งไปรษณีย์ ในรูปแบบไฟล์ PDF มายังอีเมล DirectorTPBS@thaipbs.or.th ภายในวันที่ 23 มี.ค. 64
หมายเหตุ :
- ผู้สมัครต้องรับผิดชอบในการตรวจสอบและลงลายมือชื่อรับรองเอกสารหลักฐานให้ถูกต้องครบถ้วนทุกหน้าตามจำนวนที่กำหนดในวันยื่นใบสมัคร ในกรณีที่ปรากฏว่าผู้สมัครรายใดแสดงเอกสารหลักฐาน คุณสมบัติ อย่างใดไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง ผู้สมัครรายนั้นไม่มีสิทธิเข้ารับการพิจารณาคัดเลือก
- เอกสารในการสมัครคณะกรรมการสรรหาฯ จะไม่ส่งคืน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โทร. 02-790-2117, 02-790-2119 และ 02-790-2144 (ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น. เว้นวันหยุดราชการ)