คณะกรรมการนโยบายองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกรวม 9 คน เพื่อดำเนินกระบวนการรับสมัครและสรรหาผู้สมัครที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อเข้ารับการคัดเลือกจากคณะกรรมการนโยบาย ส.ส.ท. ตามข้อบังคับองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการรับสมัคร และการสรรหาผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2568
คณะกรรมการสรรหาได้ดำเนินการสรรหาบนหลักการที่เปิดกว้าง และส่งเสริมการมีส่วนร่วมทั้งภายในและภายนอก ส.ส.ท. โดยจัดการรับฟังความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง ตรวจสอบกลั่นกรองคุณสมบัติต่าง ๆ โดยพิจารณาทั้งประวัติ ผลงาน ความรู้ ความสามารถ วิสัยทัศน์ และแนวคิดเชิงกลยุทธ์ของผู้สมัคร ก่อนที่จะจัดให้มีการถ่ายทอดสดการแสดงวิสัยทัศน์และตอบปัญหาอย่างเท่าเทียมกันของผู้สมัครรอบสุดท้าย ผ่านทางเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์ของ ส.ส.ท.
เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 คณะกรรมการสรรหาได้ประกาศรายชื่อผู้สมัครที่เหมาะสมโดยเรียงลำดับคะแนน จำนวน 4 คน และได้ส่งรายชื่อดังกล่าวให้คณะกรรมการนโยบายเพื่อพิจารณาเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา
การดำเนินกระบวนการสรรหาอย่างเป็นอิสระของคณะกรรมการสรรหา นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดียิ่ง อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการนโยบาย ยังต้องดำเนินการขั้นสุดท้ายตามอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบที่กำหนดไว้ในมาตรา 7 และมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 เพื่อคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมที่สุดในการทำหน้าที่บริหารกิจการขององค์การให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งสื่อสาธารณะแห่งนี้
คณะกรรมการนโยบายจะสานต่อจากการดำเนินการของคณะกรรมการสรรหา โดยให้โอกาสผู้ที่ผ่านการคัดเลือกทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งนอกจากความรู้ ความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือกแล้ว คณะกรรมการนโยบายจะมุ่งเน้นประเมินความพร้อมของทีมบริหารโดยเฉพาะในระดับรองผู้อำนวยการ รวมทั้งขีดความสามารถและศักยภาพในการขับเคลื่อนภารกิจองค์กรให้เกิดผลสัมฤทธิ์ โดยจะนำสถานการณ์และปัญหาที่องค์การเผชิญในปัจจุบันมาใช้เป็นแบบจำลองให้ผู้ที่ผ่านการสรรหาทั้ง 4 คน ได้แสดงศักยภาพการบริหารและทักษะการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในทางลึก ที่ไม่อาจนำเสนอได้ในระหว่างการถ่ายทอดสดการแสดงวิสัยทัศน์ เนื่องจากอาจมีผลกระทบต่อบุคคลอื่นหรือเป็นความเสี่ยง โดยเฉพาะทางด้านกฎหมายและอื่น ๆ
คณะกรรมการนโยบายได้กำหนดเกณฑ์ในการประเมินผู้ที่ผ่านการสรรหาเพื่อคัดเลือกผู้สมควรดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ โดยมีหัวข้อและคะแนนในการประเมิน ดังต่อไปนี้
- ข้อ 1 ด้านความพร้อมของทีมงานบริหาร 25 คะแนน
- ข้อ 2 ด้านการบริหารสื่อสาธารณะ 25 คะแนน
- ข้อ 3 ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรและเทคโนโลยี 25 คะแนน
- ข้อ 4 ด้านการบริหารจัดการธรรมาภิบาลและความเสี่ยง 25 คะแนน
การประเมินทั้ง 4 ประเด็นดังกล่าว ประกอบด้วยกระบวนการ 2 ขั้นตอน คือ
ขั้นตอนที่ 1 การนำเสนอข้อมูลด้วยเอกสาร ได้แก่
1.1 จัดทำรายชื่อบุคคลที่คาดว่าจะร่วมเป็นทีมบริหาร ได้แก่รองผู้อำนวยการไม่เกิน 4 คน พร้อมคุณสมบัติ ประวัติการทำงาน ผลงานที่สำคัญ และบทบาท ภาระหน้าที่ของแต่ละคนในกระบวนการเปลี่ยนผ่านทีมผู้บริหารและการรับมอบงาน เพื่อแสดงความพร้อมในการขับเคลื่อนองค์กรในมิติที่สำคัญต่าง ๆ อย่างรอบด้าน
1.2 จัดทำแผนอันแสดงถึงความพร้อมในการบริหารจัดการองค์กร ซึ่งเป็นไปตามบทบาทหน้าที่ของผู้อำนวยการ ตามที่ปรากฏในพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 โดยการวิเคราะห์จากเอกสารกรณีศึกษาที่จำลองจากปัญหาและสถานการณ์ที่สื่อสาธารณะเผชิญอยู่ในปัจจุบัน (ตามเอกสารที่จะจัดส่งไปให้) และจัดทำแผนรวม 3 ด้าน คือ
- ด้านการบริหารสื่อสาธารณะ
- ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรและเทคโนโลยี
- ด้านการบริหารจัดการธรรมาภิบาลและความเสี่ยง
ทั้งนี้ เอกสารที่จะนำส่งในข้อ 1.1 และ 1.2 นี้จะเป็นไปตามแบบฟอร์มที่คณะกรรมการนโยบายกำหนดขึ้น ซึ่งจะส่งให้ผู้เข้ารับการคัดเลือกทั้ง 4 คน ภายในวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 และให้ผู้เข้ารับการคัดเลือกจัดทำเอกสารส่งกลับมายังคณะกรรมการนโยบาย ภายในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ ตามที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด
ขั้นตอนที่ 2 การสัมภาษณ์และกิจกรรมภาคปฏิบัติ ในวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 เวลา 09.00 น. - 16.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 3 อาคารศูนย์การเรียนรู้ (D)
ผู้เข้ารับการคัดเลือกโดยคณะกรรมการนโยบายทั้ง 4 คน จะต้องจับสลากเข้ารับการสัมภาษณ์รวม 2 รอบ โดยรอบแรกจะเป็นการสัมภาษณ์และตอบข้อซักถามเกี่ยวกับทีมงานและความพร้อมในการบริหาร และรอบที่ 2 จะเป็นการประเมินภาคปฏิบัติที่เน้นศักยภาพในการดำเนินงานตามบทบาทหน้าที่และภารกิจของผู้อำนวยการ 3 ด้าน โดยจะมีพนักงานบางส่วนเข้าร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งรายละเอียดจะแจ้งให้แก่ผู้เข้ารับการคัดเลือกทราบในเอกสารที่ส่งให้ภายในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้
ในการประเมินเพื่อคัดเลือกผู้สมควรดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ คณะกรรมการนโยบายจะประเมินจากทั้ง 2 ขั้นตอนตามเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้ โดยจะนำวิสัยทัศน์ของผู้เข้ารับการคัดเลือกที่ได้นำเสนอต่อคณะกรรมการสรรหามาเป็นส่วนหนึ่งที่ใช้ประกอบการประเมินของคณะกรรมการนโยบายด้วย
ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการนโยบายจะต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 และข้อตกลงสัญญาจ้าง และเงื่อนไขอื่น ๆ อีกทั้งการเข้าสู่ตำแหน่งของผู้อำนวยการที่ผ่านการคัดเลือกจะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อ ผ่านเกณฑ์การประเมินแนบท้ายสัญญาจ้างหลังการทดลองปฏิบัติงาน 180 วัน
อนึ่ง ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้อำนวยการ และทีมงานระดับรองผู้อำนวยการจะต้องเข้าร่วมในกระบวนการเปลี่ยนผ่านผู้บริหารตามที่คณะกรรมการนโยบายกำหนดในเดือนมิถุนายนนี้ ก่อนที่ผู้อำนวยการ คนปัจจุบันจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้
ดาวน์โหลดเอกสาร
คลิปข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ไทยพีบีเอส เตรียมเปิดรับสมัคร ผู้อำนวยการคนใหม่
- ไทยพีบีเอสเปิดรับสมัคร ผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ตั้งแต่วันที่ 1 - 30 มี.ค. 68
- คณะกรรมการสรรหาฯ ยืนยันโปร่งใส ชวนเปิดรับชมผู้สมัคร ผอ.ไทยพีบีเอส แสดงวิสัยทัศน์ออนไลน์ครั้งแรก
- ประกาศรายชื่อบุคคลผู้สมัครรับการสรรหาเข้าดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการ ส.ส.ท.
- เชิญชวนประชาชนร่วมให้ข้อมูลและข้อคิดเห็นเกี่ยวกับผู้สมัครรับการสรรหาเข้าดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการ ส.ส.ท.
- ไทยพีบีเอส เชิญประชาชนร่วมเวทีแสดงความคิดเห็นสรรหาผู้อำนวยการ ส.ส.ท. 30 เม.ย.นี้
- ไทยพีบีเอส เปิดเวทีแสดงความคิดเห็น คุณลักษณะ ผอ.คนใหม่ไทยพีบีเอสที่สังคมไทยอยากได้
- รายชื่อผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าแสดงวิสัยทัศน์ต่อคณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการ ส.ส.ท.
- รายชื่อผู้สมัครเป็นผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ที่ผ่านการคัดเลือกเพื่อเสนอชื่อต่อคณะกรรมการนโยบาย ส.ส.ท. จำนวน 4 คน
- กรรมการสรรหาฯ เสนอชื่อ 4 ผู้ผ่านการคัดเลือกสู่รอบสุดท้าย ผอ.ไทยพีบีเอส
ไม่พลาดทุกข่าวสาร สาระความรู้ และคอนเทนต์คุณภาพ ติดตามไทยพีบีเอสทุกช่องทางออนไลน์ ได้ที่
▪ Website : www.thaipbs.or.th
▪ Application : Thai PBS
▪ Social Media Thai PBS : Facebook, YouTube, X , LINE, TikTok, Instagram, Threads, Linkedin