ไทยพีบีเอส เข้ารายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2564 ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร

วันที่ 1 กันยายน 2565 องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือ ไทยพีบีเอส เข้ารายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี ๒๕๖๔ ต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยมีผู้เข้าร่วมรายงาน 5 ท่าน ได้แก่ รศ. ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ประธานกรรมการนโยบาย ส.ส.ท. รศ. ดร.วิลาสินี พิพิธกุล ผู้อำนวยการ ส.ส.ท. นายอนุพงษ์ ไชยฤทธิ์ รองผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ด้านปฏิบัติการและเทคโนโลยี นายเจษฎา อนุจารี กรรมการบริหารอื่น นางสุชาดา ภู่ทองคำ ผู้ช่วยผู้บริหารด้านยุทธศาสตร์

โดย รศ. ดร.วิลาสินี พิพิธกุล ผู้อำนวยการ ส.ส.ท. นำเสนอผลการปฏิบัติงานประจำปี 2564 ถึงภารกิจของไทยพีบีเอส ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ในมิติของการสร้างเสริมความรู้ ทักษะ ค่านิยม จิตสำนึกพลังบวกที่สร้างสรรค์ในระดับบุคคลและชุมชน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของความมั่นคง โดยจัดกลุ่มภารกิจเสนอเป็น 2 ด้านหลัก ดังนี้

ภารกิจด้านที่หนึ่ง

การดำเนินการวิทยุกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์ และการผลิตเนื้อหา ให้บริการข่าวสารและสาระเพื่อการเข้าถึงของประชาชน มีการวางกรอบการรายงานข่าวสารที่ยึดความเที่ยงตรง รอบด้าน สมดุล ซื่อตรงต่อจรรยาบรรณ และรายงานแบบร่วมค้นหาทางออกให้สังคม

มุ่งเน้นการทำข่าว Solution Journalism หรือวารสารศาสตร์ เพื่อการหาทางออก คือการเกาะติดประเด็นนั้น ๆ นำปัญหามาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอย่างรอบด้าน ด้วยการหาโมเดลต้นแบบ นำมาขยายผลและถอดบทเรียน เพื่อนำเสนอการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างอย่างแท้จริง

จากการวิจัยของมหาวิทยาลัยรามคำแหงพบว่า ร้อยละ 68.9 ของประเด็นข่าวไทยพีบีเอสในทุกแพลตฟอร์ม เป็นประเด็นข่าวเพื่อการหาทางออกให้กับท้องถิ่น และนำไปสู่โมเดลการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน เน้นการแก้ปัญหาท้องถิ่นในมิติการเกษตร สอดคล้องกับ BCG Model และเรื่องของเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน และที่สำคัญคือการนำเยาวชนกลับคืนภูมิลำเนา

ด้านผลการรับชม มีจำนวนเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว เฉพาะรายการข่าวมียอดผู้ชมเฉลี่ย 200,000 คนต่อนาที โดยช่วงวิกฤตโควิด-19 ยอดผู้ชมสูงถึง 640,000 คนต่อนาที เช่น การนำเสนอข่าวและรายการในประเด็น “วาระปากท้อง” อันเนื่องมาจากผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19

นอกจากนี้ ไทยพีบีเอส ได้ขยายเครือข่ายสื่อสาธารณะไปสู่ภูมิภาค โดยทำความร่วมมือกับสื่อท้องถิ่น ชุมชนนักวิชาการ และเครือข่ายภาคประชาสังคม เพื่อร่วมมือนำเสนอประเด็นท้องถิ่นของตนเอง โดย ไทยพีบีเอส มีนักข่าวพลเมืองที่เป็น Active Citizen 9,000 คน และมีการส่งประเด็นแลกเปลี่ยนข้อมูลในแพลตฟอร์ม C-site Application

ซึ่งเยาวชนคนรุ่นใหม่เหล่านี้ เป็นกำลังสำคัญในการสร้างเสียงของประชาชนที่มีคุณภาพ และเป็นพลังบวกในการเปลี่ยนแปลงประเทศ ซึ่งผลสำรวจความพึงพอใจของประชาชนพบว่า ร้อยละ 32.2 มีความพอใจอย่างสูงที่ไทยพีบีเอสนำเสนอปัญหา และเสนอโมเดลทางออกได้ดี

ในโลกยุคใหม่ที่ถูกท้าทายจากการเปลี่ยนแปลง การพัฒนาคนเป็นรากฐานสำคัญ ไทยพีบีเอส ได้ดำเนินการผ่านเนื้อหาทางช่อง ALTV ช่อง ๔ ทีวีเรียนสนุก โดยร่วมกับภาครัฐและเอกชนพัฒนาเป็น Learning Platform เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เปรียบเสมือนเป็นน้ำมันหล่อลื่นของระบบการศึกษาไทยที่ตอบสนองต่อวิกฤตโควิด-19 ที่ทำให้เด็กจำนวนมากสุ่มเสี่ยงต่อการหลุดออกจากระบบการศึกษา โดยเฉพาะเด็กในที่ห่างไกลเข้าไม่ถึงระบบการเรียนออนไลน์

ซึ่งผลสำรวจพบว่า ร้อยละ 82.3 ประชาชนติดตามรับชมช่อง ALTV อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 1 - 2 วันต่อสัปดาห์ขึ้นไป และ ALTV ทำให้อุตสาหกรรมทีวีมีเนื้อหาสำหรับเด็กและเยาวชนเพิ่มขึ้นเป็น ร้อยละ 21

และเพื่อให้การบริการเป็นไปอย่างทั่วถึง ไทยพีบีเอส ได้เพิ่มช่องทางให้สอดคล้องกับคนหลากหลายกลุ่ม เช่น การให้บริการ OTT ชื่อ VIPA ที่มีจำนวนสมาชิกเข้าชมกว่า 10.4 ล้านครั้ง เติบโตจากปี 2563 กว่าร้อยละ 100 และจำนวนผู้ฟัง Thai PBS Podcast เติบโตขึ้นร้อยละ ๑๕ และเครือข่ายสถานีวิทยุการศึกษา วิทยุท้องถื่น ๒๑๔ แห่ง เลือกถ่ายทอดสัญญาณรายการไปทั่วประเทศ

ภารกิจด้านที่สอง

การดำเนินงานที่สะท้อนคุณค่าตามหลักการสื่อสาธารณะ จากการประเมินความคุ้มค่าและผลตอบแทนทางสังคม ไทยพีบีเอส ได้ดำเนินภารกิจ เผยแพร่ข้อมูลความรู้ที่ถูกต้อง รอบด้าน และผสานความร่วมมือทุกภาคส่วน โดยเฉพาะในสถานการณ์วิกฤตในปี 2564 ที่ผ่านมา ไทยพีบีเอส สนับสนุนช่วยเหลือประชาชนและสังคมด้วยโครงการต่าง ๆ ที่เน้นประเด็นวาระปากท้อง และรายการพิเศษไทยพีบีเอสสู้โควิด-19 ซึ่งได้รับความพึงพอใจ 8.79 จากเต็ม 10 และจากการประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ คิดเป็น 11.13 เท่า ของมูลค่าเงินลงทุน

นอกจากนี้ ไทยพีบีเอส ยังสามารถตอกย้ำความสำเร็จของคุณค่าความเป็นสื่อสาธารณะ จากรางวัลที่ได้รับมากถึง ๒๗ รางวัล อาทิ สกู๊ปข่าวยอดเยี่ยม “ทวงคืนสมบัติชาติจากอุ้งมือสหรัฐ” ละครยอดเยี่ยม “Reunion เรียนอยู่นี่” และ “Tea Box ชายชรากับหมาบ้า” และยังได้รับการจัดอันดับเป็นสำนักข่าวที่น่าเชื่อถืออันดับหนึ่งของไทย ประจำปี 2564 - 2565 จากสถาบันรอยเตอร์

ไทยพีบีเอส ยังได้ดำเนินภารกิจสนับสนุนสังคม ด้วยการผลิตสื่อสร้างสรรค์ ส่งเสริมคุณธรรม จากผลงาน อาทิ สารคดีชุดคนจนเมือง, สารคดีด้านศิลปวัฒนธรรม ชุด โนรา ภูมิปัญญาแห่งแผ่นดิน และสารคดี “จากรากสู่เรา” และผลักดันให้เกิด Soft Power จากละครชุด “จากเจ้าพระยาสู่อิรวดี” จนประสบผลสำเร็จ

รวมถึงยังส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ด้วยรายการเด็กและครอบครัว อีกทั้งสร้างความตระหนักรู้ด้านภัยพิบัติและการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ รู้เท่าทันสถานการณ์ในต่างประเทศจากการวิเคราะห์ข่าว ของ Thai PBS World พร้อมส่งเสริมความเป็นไทยสู่สากลในรูปแบบภาษาอังกฤษ นำไปสู่ความร่วมมือพัฒนาเครือข่ายสื่อสาธารณะในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งในปัจจุบัน ไทยพีบีเอส มีความร่วมมือกับสื่อสาธารณะญี่ปุ่น ไต้หวัน และอินเดีย โดย ไทยพีบีเอส จะมุ่งเน้นพัฒนาความร่วมมือของเครือข่ายในระดับอาเซียนและเอเชียต่อไป

ทั้งนี้ ไทยพีบีเอส ได้เตรียมรับมือกับการถูก Disruption ด้วยแผน Digital Transformation เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่องค์กร Digital Driven เต็มรูปแบบในอนาคต และจะเป็นสื่อสาธารณะที่สร้างระบบนิเวศสื่อ ที่หยิบยื่นประเด็นทางสังคมผ่านรูปแบบการทำงาน Digital Platform ที่ประชาชนทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการสรรค์สร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำเชิงโครงสร้างในสังคม อันเป็นวาระสำคัญของ ไทยพีบีเอส

และเป็นไปตามแนวทางหลักที่กำหนดไว้ในแผนปี 65 ต่อถึงปี 66 คือ การสื่อสารเพื่อกระตุ้นและผลักดันให้เกิดการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม การสร้างเครือข่ายสื่อสาธารณะภูมิภาค และมุ่งนำเพื่อเป็นที่พึ่งด้านข่าวสาร รายงานอย่างเที่ยงตรง เป็นธรรม โปร่งใส ให้ไปสู่การเป็นที่ยอมรับในอาเซียน บนความมุ่งมั่นของสื่อสาธารณะที่จะยึดโยง และอยู่เคียงข้างประชาชนทุกกลุ่ม

รายงานผลการปฏิบัติงานของ ส.ส.ท. ประจำปี 2564 ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร

รศ. ดร.วิลาสินี พิพิธกุล ผู้อำนวยการ ส.ส.ท.

รศ. ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ประธานกรรมการนโยบาย ส.ส.ท.

ผู้ร่วมอภิปรายฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล

  • นางสาวพิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์
  • นายคารม พลพรกลาง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล
  • นายมานพ คีรีภูวดล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล
  • นายกนก วงษ์ตระหง่าน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์
  • นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย
  • นายนิยม เวชกามา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย
  • พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชาติ

รับชมการรายงานผลการปฏิบัติงานของ ส.ส.ท. ประจำปี 2564 ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้ที่ www.thaipbs.or.th/Report2564YouTube

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวประชาสัมพันธ์

บทสัมภาษณ์ผู้บริหาร

ข่าวกิจกรรม

กลับขึ้นด้านบน