กสทช. เข้าพบผู้บริหารไทยพีบีเอส ร่วมหารืออนาคตทีวีไทย หลังใบอนุญาตประกอบกิจการจะหมดอายุในปี 72 แนวทางการเตรียมการเปลี่ยนผ่าน การสนับสนุนเนื้อหาทีวีไทยที่เป็นประโยชน์ และการพัฒนาแพลตฟอร์มสตรีมมิงระดับชาติ ไปจนถึงโอกาสความร่วมมือในอนาคต
เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 68 ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการโทรทัศน์ และคณะกรรมการ กสทช. ด้านอื่น ๆ เข้าพบ นายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ ผู้อำนวยการ และคณะผู้บริหาร องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือไทยพีบีเอส เพื่อหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับทิศทางอนาคตทีวีสาธารณะไทยในช่วงการเปลี่ยนผ่านหลังหมดอายุใบอนุญาตในปี 72 การร่วมกันสนับสนุนเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ในระดับชุมชน และส่งเสริมเนื้อหาจากผู้ผลิตชาวไทยสู่เวทีระดับสากล รวมถึงการพัฒนาแพลตฟอร์มสตรีมมิงระดับชาติ
ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง กล่าวว่า จากข้อมูลการสำรวจโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ คาดการณ์ช่องทางการรับชมรายการโทรทัศน์ ซึ่งมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องในช่องทางดิจิทัลทีวี ดาวเทียม และเคเบิลทีวี ซึ่งสวนทางกับช่องทางอินเทอร์เน็ตหรือแอปพลิเคชัน และช่องทาง IPTV ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น โดยมีผลการศึกษาฉากทัศน์กิจการแพร่ภาพกระจายเสียงในอนาคตของไทยภายใต้สภาพแวดล้อมของอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป เป็น 3 ฉากทัศน์ ได้แก่
ฉากทัศน์ที่ 1 : ทีวีไทยล่มสลาย เมื่อรัฐไม่แทรกแซง ไม่มีมาตรการใดๆ กิจการ Broadcast เดิม กับ OTT ยังคงกำกับดูแลต่างกัน ส่งผลให้ผู้ให้บริการทีวีดั้งเดิมต้องปิดสูญเสียรายได้ค่าโฆษณาจนตัวลง ผู้บริโภคหันไปดู OTT แทน โดยแพลตฟอร์มระดับโลกยึดครองตลาด และกลุ่มเปราะบางเสียสิทธิการเข้าถึงบริการสาธารณะ
ฉากทัศน์ที่ 2 : ทีวีไทยพอแข่งขันได้ (ระยะหนึ่ง) มีกฎหมายกำกับดูแลแพลตฟอร์ม OTT และ มีมาตรการสนับสนุนให้ทีวีดั้งเดิมเข้าสู่ตลาดสตรีมมิ่ง BVOD แต่ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกลไกตลาด ไม่มีการกระตุ้น ไม่แทรกแซง ส่งผลให้เกิดเป็นตลาดที่ผสมผสานระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้ประกอบการระดับโลก ผู้ประกอบการรายใหญ่ฝั่ง USA กับฝั่ง Asia แข่งกันเพื่อครอบครองกิจการไทย
ฉากทัศน์ที่ 3 : ทีวีไทยสู่แพลตฟอร์มระดับโลก มีการปฏิรูปองค์กรที่เกี่ยวข้อง มีการกำจัดเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม เป็นอันตรายต่อกลุ่มเปราะบาง พร้อมจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะ อย่าง Regulatory Authority for Digital Audiovisual Media (RADAM) : องค์กรขับเคลื่อนเชิงนโยบาย การกำกับ ดูแล แนวทางการส่งเสริมสนับสนุน และ Thai Audiovisual Industry Council (TAVIC) : องค์กรขับเคลื่อนเชิงปฏิบัติ นำนโยบายของ RADAM : มาพัฒนาภาคอุตสาหกรรมต่อ โดยการสนับสนุนความช่วยเหลือต่างๆ ส่งผลให้ อุตสาหกรรมทีวีไทยพัฒนาสู่ระดับสากลเช่นเดียวกับฝรั่งเศส และเกาหลี เนื้อหา Thai Wave เติบโตและเป็นที่ต้องการในตลาดโลก
ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการโทรทัศน์
"การเตรียมการเปลี่ยนผ่านก่อนใบอนุญาตจะหมดอายุในปี 72 จึงต้องมีการพิจารณาในหลายประเด็นอย่างรอบด้าน ทั้งในส่วนของ Content Producer, Service Provider, Network Provider และ End-user Device" ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง กล่าว
ด้านนายวันชัย ผอ. ส.ส.ท. กล่าวว่า ไทยพีบีเอสพร้อมเดินหน้าปรับตัวเพื่อรับมือกับความท้าทายในอนาคต โดยจะยังคงทำหน้าที่เป็นสื่อสาธารณะที่เข้มแข็ง พร้อมสนับสนุนผู้ผลิตเนื้อหาอิสระและชุมชนให้มีพื้นที่เผยแพร่ผลงาน ทั้งนี้ ไทยพีบีเอส ได้มีการเตรียมความพร้อมพัฒนาทั้งระบบโครงข่ายการส่งสัญญาณออกอากาศโทรทัศน์ และแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยเฉพาะ VIPA ซึ่งเป็นบริการ OTT ของไทยพีบีเอส ที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้คนไทยเข้าถึงคอนเทนต์คุณภาพได้ทุกที่ทุกเวลา และยังเป็นพื้นที่สำคัญที่จะผลักดันเนื้อหาไทยสู่สายตาผู้ชมระดับสากล
นายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ ผู้อำนวยการ ส.ส.ท.
ขณะที่ นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ รองผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ด้านเทคโนโลยี กล่าวเสริมว่า VIPA เป็นบริการ OTT ที่ไทยพีบีเอส พัฒนาขึ้นด้วยความตั้งใจจะเป็น "สื่อที่ทุกคนเข้าถึงได้" มีเนื้อหาอยู่ในแพลตฟอร์มมากถึง 7 กลุ่มเนื้อหา ได้แก่ ละคร, สารคดี, เด็กและครอบครัว, ท่องเที่ยวและอาหาร, วาไรตี้, การศึกษา และรายการสารคดีเชิงช่าว อีกทั้งยังมีการถ่ายทอดสดรายการกีฬาอีกด้วย ซึ่งนอกจากเนื้อหารายการที่หลากหลายแล้ว VIPA ยังเป็นแพลตฟอร์ม OTT ที่มีบริการพิเศษอย่าง Audio Description (AD), Closed Caption (CC) และบริการ Big Sign ภาษามือใหญ่เต็มจอ เพื่อรองรับคนพิการทางสายตา และการได้ยิน ปัจจุบัน VIPA มียอดติดตั้งแอปพลิเคชันแล้วกว่า 765,000 ดาวน์โหลด ซึ่งเราตั้งใจให้ VIPA เป็นแพลตฟอร์มที่ทุกคนเข้าถึงได้อย่างแพร่หลาย และเท่าเทียม
นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ รองผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ด้านเทคโนโลยี
ไทยพีบีเอสมีความพร้อมจะพัฒนาไปสู่ National Streaming Platform เพื่อให้เป็นแพลตฟอร์มใหม่สำหรับผู้ผลิคอนเทนท์และช่องทีวีดิจิทัลอื่น ๆ โดยเชื่อมั่นว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคจะหันมาดูโทรทัศน์บนแพลตฟอร์ม OTT มากขึ้นเรื่อย ๆ และหวังว่ากสทช.จะให้การสนับสนุนและแก้ไขข้อจำกัดต่าง ๆ ได้
การหารือครั้งนี้สะท้อนความตั้งใจของทั้ง กสทช. และไทยพีบีเอส ที่จะร่วมกันขับเคลื่อนทิศทางทีวีไทยท่ามกลางความท้าทายในอนาคต พร้อมผลักดันอุตสาหกรรมสื่อไทยไปสู่มาตรฐานสากล ที่จะสามารถแข่งขันในเวทีระดับโลกได้
ไม่พลาดทุกข่าวสาร สาระความรู้ และคอนเทนต์คุณภาพ ติดตามไทยพีบีเอสทุกช่องทางออนไลน์ ได้ที่
▪ Website : www.thaipbs.or.th
▪ Application : Thai PBS
▪ Social Media Thai PBS : Facebook, YouTube, X , LINE, TikTok, Instagram, Threads, Linkedin