ก้าวสู่ 15 ปี ไทยพีบีเอส มุ่งถมช่องว่างแห่งความเหลื่อมล้ำ พร้อมอยู่เคียงข้าง ยึดโยงกับประชาชน

ปี 2565 ไทยพีบีเอส เดินหน้าสร้างสรรค์งาน นำความรู้และคุณค่าทางสังคมสานต่อตามเจตนารมณ์ขององค์การ มุ่งถมช่องว่างของความเหลื่อมล้ำ เพื่อเพิ่มโอกาสให้กลุ่มเปราะบางในสังคม

นับจากวันที่ 15 มกราคม 2565 เป็นต้นไป ไทยพีบีเอส ย่างก้าวเข้าสู่ปีที่ 15 ซึ่งโอกาสนี้ รศ.ดร.วิลาสินี พิพิธกุล ผู้อำนวยการ ส.ส.ท. เผยถึงทิศทางสื่อสาธารณะปี 2565 ในรายการพิเศษ “ก้าวไปข้างหน้ากับไทยพีบีเอส” ที่ออกอากาศไปแล้วทางไทยพีบีเอส เมื่อวันเสาร์ที่ 15 มกราคม 2565 เวลา 10.15 - 10.30 น. ชมย้อนหลังได้ที่ www.thaipbs.or.th/Turning15

โดย รศ.ดร.วิลาสินี พิพิธกุล กล่าวว่า “ตลอด 14 ปีที่ผ่านมา องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือ ไทยพีบีเอส ทำหน้าที่เป็นสถาบันสื่อสาธารณะที่อยู่เคียงข้างร่วมทุกข์ร่วมสุขกับประชาชน ตามวิสัยทัศน์ ส.ส.ท. ที่มุ่งมั่นเป็นสถาบันสื่อสาธารณะที่สร้างสรรค์สังคมคุณภาพและคุณธรรม และทำหน้าที่ตอบพันธกิจด้วยการให้บริการข่าวสาร ความรู้ สาระบันเทิงที่มีคุณภาพและมาตรฐาน เผยแพร่ผ่านสื่อทุกแขนง โดยยึดถือผลประโยชน์สาธารณะและความคุ้มค่าเป็นสำคัญ มุ่งยกระดับความรู้และคุณภาพชีวิตของประชาชน ไปสู่สังคมที่ยั่งยืน มีความเป็นธรรม และความเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ

แนวคิดที่ไทยพีบีเอสยึดถือและใช้ดำเนินงานมาโดยตลอด คือ “สร้างการมีส่วนร่วม ผ่านพื้นที่สื่อสาธารณะ โดยเฉพาะเมื่อสังคมต้องการหาทางออกร่วมกัน” ตัวอย่างที่ย้อนกลับไปในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ที่เราเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 นั้น ไทยพีบีเอสได้ทำหน้าที่เป็นที่พึ่ง ด้วยการปรับผังรายการกว่าร้อยละ 80 ให้เป็นวาระพิเศษ “ไทยพีบีเอสสู้โควิด-19” ให้คำปรึกษาทางหน้าจอโดยผู้เชี่ยวชาญ และยกระดับเป็นศูนย์ประสานฉุกเฉิน โดยเป็นสื่อกลางเชื่อมความช่วยเหลือส่งต่อผู้ป่วย และจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังคงระบาดอย่างต่อเนื่อง ไทยพีบีเอสคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน จึงเปิดพื้นที่ให้บริการศูนย์ฉีดวัคซีน และการออกไปสู่ชุมชนเมืองที่ต้องการความช่วยเหลือ

 

นอกจากนั้น ไทยพีบีเอสยังเปิดประเด็นที่จะกลายเป็นชนวนใหญ่ของปัญหา เพื่อให้เกิดการเร่งแก้ไข นั่นคือภาวะของคนเสี่ยงจนและคนจนเมือง กระตุ้นให้ภาคนโยบายได้เห็นถึงภาวะความเสี่ยงของประชาชนกว่าล้านคนที่จะกลายเป็นคนจน อีกทั้ง ไทยพีบีเอสได้ผลิตรายการเพื่อร่วมฟื้นพลังให้คนในสังคม สร้างทักษะอาชีพเพื่อการปรับตัว การบันทึกเหตุการณ์ การพัฒนานวัตกรรม ในรูปแบบของสารคดี มีการขยายพื้นที่บอกเล่าข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ ที่คำนึงถึงคนทุกกลุ่ม

และที่สำคัญ ไทยพีบีเอสเปิดบริการใหม่ ALTV ช่อง 4 ทีวีเรียนสนุก รองรับการเรียนรู้ของเด็ก ประคองเด็กที่กำลังหลุดออกจากระบบการศึกษา ออกอากาศในช่องดิจิทัลหมายเลข 4 เป้าหมายคือ ส่งเสริมการเรียนรู้ ลดอุปสรรคและภาระการเรียนรู้ทางออนไลน์ กระตุ้นความสนใจเรียนรู้ด้วยตัวเองของเด็ก ช่วยครูในการสร้างนวัตกรรมการเรียนการสอน และช่วยผู้ปกครองในการสร้างค่านิยมที่ดีให้แก่เด็ก ๆ

สถานการณ์โควิด-19 เป็นตัวเร่งให้ปัญหาความเหลื่อมล้ำสูงขึ้น คนตัวเล็ก คนเปราะบาง จะถูกกระแทกแรงมากขึ้น จนกลายเป็นความเหลื่อมล้ำ ถูกกีดกันโอกาสการเข้าถึงบริการสาธารณะ ดังนั้น ทิศทางหลักของไทยพีบีเอสในปี 65 คือ มุ่งถมช่องว่างของความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมในการเข้าถึงโอกาสผ่านการทำงานในบทบาทสื่อ โดยสร้างความตระหนัก เปลี่ยนวิธีคิด ชี้ให้เห็นจุดชนวน หรือ Tipping Point ที่ต้องไม่ปล่อยผ่านไป ไม่ว่าจะเป็นการกระจุกตัวหรือการผูกขาดการเข้าถึงทรัพยากร สังคมสูงวัย ร่วมสนับสนุน ผลักดันข้อเสนอที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาระดับโครงสร้าง เป็นพื้นที่ของการร่วมหารืออย่างสันติและสร้างสรรค์ เพิ่มสมรรถภาพ ทักษะ เสริมพลัง สร้างการรู้เท่าทัน ลดช่องว่างของการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร

นอกจากวาระกลางลดความเหลื่อมล้ำ ไทยพีบีเอสจะมุ่งสร้างสรรค์งาน เพื่อเป็นผู้นำเอาความรู้และคุณค่าทางสังคมมาสานต่อตามเจตนารมณ์ขององค์การ จะลงทุนในสารคดีชั้นยอดฝีมือคนไทย เพื่อให้ได้เรียนรู้ความเป็นรากที่เติบโตมาเป็นตัวตนของเรา เรียนรู้ที่จะเคารพความหลากหลาย เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของชาติผ่านละคร

ไทยพีบีเอสจะพัฒนาบริการใหม่ ๆ ทางออนไลน์ เพื่อเข้าให้ถึงคนทุกกลุ่ม และหนุนการเติบโตอย่างสร้างสรรค์ของพลเมือง ข่าวของไทยพีบีเอส จะเป็นที่พึ่งของทุกคน ที่เข้าถึงได้ในหลายรูปแบบและช่องทาง จะยังคงเป็นพื้นที่ของการคุ้มครองผู้บริโภค สร้างการรู้เท่าทัน และเป็นสื่อแห่งการเรียนรู้ที่ครอบครัววางใจให้แก่ลูกหลานได้ ไทยพีบีเอสจะอยู่เคียงข้างและยึดโยงกับประชาชนในปี 2565 ตลอดทั้งปี และจะถอดบทเรียนความสำเร็จของการสร้างการเปลี่ยนแปลง ความร่วมมือสานพลัง มานำเสนออย่างต่อเนื่อง

ไทยพีบีเอส ขอขอบคุณ เครือข่ายทั้งในระดับชุมชน ท้องถิ่น ระดับชาติ และสากลกว่า 1,000 องค์กร ขอบคุณผู้ผลิตอิสระกว่า 800 คน นักสื่อสารภาคพลเมืองกว่า 40,000 คน และสภาผู้ชมผู้ฟังรายการทั้ง 6 รุ่น ที่รวมพลังกันสร้างสื่อสาธารณะจนเติบโตมาถึงวันนี้”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวประชาสัมพันธ์

บทสัมภาษณ์ผู้บริหาร

ข่าวกิจกรรม

กลับขึ้นด้านบน