ท่ามกลางพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทำให้ธุรกิจสื่อหลากหลายแขนงต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส สื่อสาธารณะแห่งแรกของประเทศไทยจึงได้เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว พร้อมวางแนวทางในการรับมือกับวิกฤติครั้งนี้ พร้อมเผยทิศทางการทำงานของไทยพีบีเอสในปี 2561
โดย รศ.ดร.วิลาสินี พิพิทธกุล ผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือ ส.ส.ท. เผยว่า “ปัจจุบันพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป
ประชาชนไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารจากหน้าจอโทรทัศน์เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป เมื่อโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนเข้ามามีอิทธิพลกับการใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจสื่อต่าง ๆ ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก เรตติ้งช่องต่าง ๆ ลดลงอย่างน่าตกใจแต่ เราเชื่อมั่นว่า ถึงแม้พฤติกรรมจะเปลี่ยน ผู้รับสื่อก็ยังต้องการรับข้อมูลที่รวดเร็วและเป็นข้อเท็จจริง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงต้องเตรียมพร้อมในการพัฒนาคอนเทนต์สื่อใหม่ ๆ ซึ่งเราไม่ได้มองว่าเป็นคู่แข่งกับใคร แต่การทำงานแบบพันธมิตรและพยายามทำให้สื่อของเราเป็นที่นิยมในกลุ่มคนดู จึงต้องพยายามเรียนรู้สื่อการทำงานของที่อื่น ๆด้วย เพื่อพัฒนาให้แตกต่างมากขึ้น”
“คนอาจจะมองการนำเสนอข่าวของไทยพีบีเอส ค่อนข้างจืดชืด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องอยู่บนพื้นฐานที่เป็นข้อเท็จจริง มีสาระและมีจริยธรรม รวมทั้งวิเคราะห์วิถีชีวิตของผู้บริโภค เพื่อปรับเนื้อหาให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มคนนั้นให้มากที่สุด”
จากนี้ไปทิศทางของไทยพีบีเอสในปี 2561 จะเป็นอย่างไร “เราจะเปิดวาระในเรื่องของการปฏิรูป ตามสโลแกนที่ว่าแตกต่างบนความยั่งยืน ยังคงเน้นรายการข่าว 50% ส่วนอีก 42% แบ่งเป็นรายการสารประโยชน์ และ 8% เป็นรายการสารบันเทิง พร้อมกันนี้จะมีการเปิดตัวแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของไทยพีบีเอสได้สะดวกและง่ายขึ้น
เราคาดหวังว่าเนื้อหาและบริการที่เรานำเสนอจะช่วยเติมเต็มช่องว่างที่สื่ออื่นอาจจะมองข้าม และตอบสนองความต้องการของประชาชนรายย่อย รวมถึงประชาชนที่อยู่ห่างไกลความเจริญให้ได้เข้าถึงสื่อสาธารณะอย่างทั่วถึงอีกด้วย”
ในฐานะคนดูที่รับข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ มากมาย ทุกแง่ทุกมุมบนโลกใบนี้ ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าในอนาคตเราจะได้เห็นได้สัมผัสสิ่งแปลกใหม่ ที่คงไว้ซึ่งสาระความรู้และความบันเทิง ผ่านสื่อสาธารณะอย่าง “ไทยพีบีเอส” ควบคู่ไปกับจริยธรรม
เดลินิวส์
วันศุกร์ 19 มกราคม 2561 ฉบับที่ 24935 หน้า 27