The Active - Policy Watch Thai PBS จับมือ กลุ่ม we!park และภาคีเครือข่าย จัด Policy Forum "ขยับท้องถิ่น ขยายเมืองสุขภาวะ" ขับเคลื่อนนโยบาย สร้างสรรค์เมือง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างมีส่วนร่วมยั่งยืน
องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือไทยพีบีเอส โดยศูนย์สื่อสารวาระทางสังคมและนโยบายสาธารณะ หรือ The Active ร่วมกับกลุ่ม we!park และองค์กรเครือข่ายด้านการพัฒนาเมืองและพื้นที่สุขภาวะ จัด Policy Forum "ขยับท้องถิ่น ขยายเมืองสุขภาวะ: ขับเคลื่อนนโยบาย สร้างสรรค์เมือง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างมีส่วนร่วม" ณ ลาน EM Glass/EM Yard ชั้น G ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ ภายในงาน Active City Forum : Activate City for Healthier Life ปลุกเมืองให้สุขภาพดี ด้วยเราทุกคน

นางสาวนิรมล ราศรี ผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
นางสาวนิรมล ราศรี ผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า การพัฒนาพื้นที่สุขภาวะเป็น 1 ในยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนสังคมสุขภาวะโดย สสส. ส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างพื้นที่สุขภาวะที่ครอบคลุมหลายมิติร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ผ่านกระบวนการที่ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และเชื่อมโยงการทำงานระหว่างกัน โดยเฉพาะในระดับพื้นที่ชุมชนเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการดูแลพื้นที่ของตนเองกลายเป็นโมเดลต้นแบบที่สามารถขยายผลได้จริงในระดับชุมชน ระดับประเทศ

รศ. ดร.ปิยวัฒน์ เกตุวงศา ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย (TPAK)
รศ. ดร.ปิยวัฒน์ เกตุวงศา ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย (TPAK) กล่าวว่า ถ้าเมืองดีชีวิตก็ดีด้วย แต่ปัญหาสำคัญคือเราจะทำให้เป็นจริงได้อย่างไร การมีเมืองที่ดีช่วยให้ชีวิตของเราดีด้วยรัศมีของการใช้ชีวิตที่ผูกโยงกับพื้นที่ต่าง ๆ โดยมหาวิทยาลัยมหิดลได้ทบทวนวรรณกรรม ความยืนยาวของชีวิตที่มีคุณภาพที่ดี พบว่า การมีเมืองสุขภาวะที่ทุกคนสามารถออกมาใช้ชีวิตได้อย่างกระฉับกระเฉง เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่ทำให้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งคนที่อาศัยอยู่ในเมืองที่ดี จะมีอายุขัยเฉลี่ยมากกว่าคนที่อยู่ในเมืองที่ไม่ดี อย่างน้อย 10 ปี
สำหรับการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) คือ 1. ทำชีวิตคนให้ผูกติดกับละแวกบ้านให้ได้ 2.) ทำเรื่องของขนส่งสาธารณะให้ดี 3.) ทำเรื่องความปลอดภัยทางถนนให้พร้อม 4.) ทำเรื่องของการเชื่อมต่อคนให้เข้าถึงพื้นที่สุขภาวะอย่างเท่าเทียม และ 5.) ทุกภาคส่วนร่วมออกแบบผังเมือง ให้ใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้น

นายยศพล บุญสม หัวหน้ากลุ่ม we!park
นายยศพล บุญสม หัวหน้ากลุ่ม we!park กล่าวว่า การคืนข้อมูลเมืองสุขภาวะตลอดช่วงเวลาการจัดงานทั้ง 3 วัน มีโมเดลจาก 5 ประเทศที่ได้ร่วมแลกเปลี่ยนกัน ทั้งไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ เดนมาร์ก ญี่ปุ่น จะเห็นได้ว่าประเทศที่ประสบความสำเร็จจะมีความเข้าใจร่วมกันและส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน สำหรับประเทศไทย ที่จังหวัดกรุงเทพมหานครและยะลา สะท้อนได้ชัดเจนว่า การพัฒนาที่เชื่อมเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ภายใต้บริบทของท้องถิ่นที่เข้มแข็งจะสามารถทำให้เมืองเติบโตไปได้ด้วยตัวของตัวเองอย่างมีสุขภาวะ แต่หากท้องถิ่นใดผู้นำขาดวิสัยทัศน์ ขาดกลไก เครื่องมือ ก็จะทำให้เมืองนั้นไม่เติบโตเช่นกัน
"สิ่งที่ทุกที่ในโลกเริ่มเหมือนกันคือ ทุนทางพื้นที่ และผู้คน เกิดการแลกเปลี่ยน ทำซ้ำ การทำงานตรงนี้ไม่มีเส้นชัยแต่จุดมุ่งหมายต้องเป็นกราฟที่พุ่งขึ้น มีการประสานงานจับมือไปด้วยกัน ที่สำคัญคือความเข้าใจเรื่องไลฟ์สไตล์ ที่ทุกคนไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี คุณป้าที่ขี่จักรยาน ต้องเข้าใจเรื่องนี้ว่าเป็นสิ่งสำคัญและเป็นสิทธิของทุกคนที่จะใช้ชีวิตและร่วมกระบวนการเปลี่ยนเมืองด้วยกัน" นายยศพล กล่าว

นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้แลกเปลี่ยนแสดงวิสัยทัศน์ เป้าหมายการขับเคลื่อนเมืองสุขภาวะ ว่า การพัฒนาพื้นที่ ยกตัวอย่างทางเท้า มีหน่วยงานที่ดูแลในกรุงเทพมหานคร ถึง 13 หน่วยงาน ในปีนี้กทม. มีการปรับปรุงพื้นที่ทางเท้า แต่ปีหน้าหน่วยงานอื่นอาจมีการปรับปรุงนำสายไฟลงดิน ทำให้ต้องมีการรื้อทางเท้าขึ้นใหม่อีก เพราะแต่ละหน่วยงานได้งบประมาณไม่พร้อมกัน ดังนั้น สิ่งที่ต้องดำเนินการคือ
- การแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 ที่ทำให้ท้องถิ่นสามารถแก้ไขปัญหาได้เบ็ดเสร็จมากยิ่งขึ้น
- การสร้างการมีส่วนร่วมในการใช้พื้นที่ เนื่องจากที่ผ่านมา กทม. ได้เพิ่มพื้นที่สีเขียวและการเรียนรู้ แต่หลายพื้นที่ประชาชนไม่ได้เข้ามาใช้งาน หัวใจจึงไม่ใช่การสร้างพื้นที่แต่สร้างกระบวนการให้คนได้มีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่ม
- การสร้างเมืองสุขภาวะที่เป็นของทุกคน ไม่ใช่ชนชั้นกลางอย่างเดียว แต่คำนึงถึงเศรษฐกิจฐานรากเอื้อให้เกิดรายได้ เป็นเมืองสุขภาวะอย่างครบวงจร

รศ. ดร.วิชัย กาญจนสุวรรณ รองนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่
ด้าน รศ. ดร.วิชัย กาญจนสุวรรณ รองนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ กล่าวว่า เมืองหาดใหญ่มีเป้าหมายในการขับเคลื่อนเมืองน่าอยู่ เมืองน่าเที่ยว กรีนซิตี้ สมารท์ซิตี้ และเมืองแห่งการเรียนรู้ โดยเทศบาลฯ ได้ร่วมกับ สสส. และศูนย์ศึกษาเมือง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ในการศึกษาข้อมูล 18 ชุมชน โดยให้ชุมชนเก็บข้อมูลด้วยตนเอง ซึ่งทำให้ได้ข้อมูลชุมชนที่เป็นประโยชน์และจะขยายครอบคลุมชุมชนทั้งหมด 103 ชุมชน และร่วมมือกับนักศึกษาจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ในการสำรวจลงพื้นที่สร้างกระบวนการรับรู้และตระหนักเข้าใจสิทธิ และความต้องการของพื้นที่ มีการออกแบบปรับปรุงพื้นที่สีเขียวและพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ โดยเริ่มจาก "ลานซีกิมหยง" ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองเทศบาลนครหาดใหญ่ สำหรับการทำงานก็มีปัญหาการบูรณาการระหว่างหน่วยงานเหมือนประสบการณ์ที่กรุงเทพมหานครเจอ อย่างไรก็ตามยังเชื่อว่า พลังของชุมชนและเทคโนโลยี จะนำไปสู่การพัฒนาเมืองที่ยั่งยืนและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทุกคน

นางสาวณาตยา แวววีรคุปต์ ผู้อำนวยการศูนย์สื่อสารวาระทางสังคมและนโยบายสาธารณะ ไทยพีบีเอส
จากนั้นเป็นวงกระบวนการแลกเปลี่ยน "What Next นโยบายการพัฒนาเมืองสุขภาวะของประเทศไทย" โดยนางสาวณาตยา แวววีรคุปต์ ผู้อำนวยการศูนย์สื่อสารวาระทางสังคมและนโยบายสาธารณะ ไทยพีบีเอส กล่าวว่า นโยบายการพัฒนาพื้นที่สุขภาวะ เป็นประเด็นที่ภาคประชาสังคม และไทยพีบีเอสให้ความสำคัญ ที่ผ่านมา เราได้ร่วมกันกับภาคีเครือข่าย ขับเคลื่อนในเชิงรูปธรรมที่ชัดเจนขึ้นในงาน เสวนา Park Policy ในกิจกรรม "พัก กะ Park พาร์คสร้างสุข เพื่อสุขภาวะ" ที่มองนิยามของส่วนเกินกว่าขอบเขต "พื้นที่สีเขียว" ไปสู่ "พื้นที่ สาธารณะ" จนกระทั่งครั้งนี้ เราได้ชักชวนท้องถิ่นที่มีศักยภาพเข้ามาร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่สุขภาวะทั่วประเทศ และจะมีการร่วมมือผลักดันนโยบายที่ขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

ทั้งนี้ ข้อมูลที่นำเสนอใน Active City Forum ทั้งหมดได้รวบรวมไว้ที่แพลตฟอร์ม "Policy Watch" ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการติดตามและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ พร้อมทั้งเชื่อมโยงทุกมิติ ซึ่งสามารถติดตามข้อมูลได้ที่ www.thaipbs.or.th/PolicyWatch

ไม่พลาดทุกข่าวสาร สาระความรู้ และคอนเทนต์คุณภาพ ติดตามไทยพีบีเอสทุกช่องทางออนไลน์ ได้ที่
▪ Website : www.thaipbs.or.th
▪ Application : Thai PBS
▪ Social Media Thai PBS : Facebook, YouTube, X , LINE, TikTok, Instagram, Threads, Linkedin