สส. ชื่นชมผลการปฏิบัติงานประจำปี 2566 ไทยพีบีเอส ให้กำลังใจ ทำหน้าที่สื่อสาธารณะยึดโยงประชาชน

ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชื่นชมผลการปฏิบัติงานประจำปี 2566 ไทยพีบีเอส ยกย่องเล่มรายงานฯ มีขนาดกะทัดรัด อ่านง่าย สาระครบถ้วน เป็นแบบอย่างช่วยลดโลกร้อน ให้กำลังใจไทยพีบีเอส ทำหน้าที่สื่อสาธารณะยึดโยงประชาชน เป็นกลาง เป็นที่พึ่ง หนุนช่วยชาติขับเคลื่อน Soft Power

เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 67 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 26 ปีที่ 2 ครั้งที่ 26 (สมัยสามัญประจำปี ครั้งที่ 1) ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุมสภาฯ วาระรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2566 ขององค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือ ไทยพีบีเอส โดยมีผู้เข้าร่วมรายงาน 5 ท่าน ได้แก่

  • รศ. ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ กรรมการนโยบาย ส.ส.ท.
  • รศ. ดร.วิลาสินี พิพิธกุล ผู้อำนวยการ ส.ส.ท.
  • นายอนุพงษ์ ไชยฤทธิ์ กรรมการบริหาร และ รองผู้อำนวยการ ส.ส.ท.
  • นางสาวสุวรรณา สมบัติรักษาสุข กรรมการบริหาร และ รองผู้อำนวยการส.ส.ท.
  • นางสาวกนกพร ประสิทธิ์ผล กรรมการบริหาร และ ผู้อำนวยการสำนักสื่อดิจิทัล


รศ. ดร.วิลาสินี พิพิธกุล ผู้อำนวยกา
ร องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) กล่าวนำเสนอผลการปฏิบัติงานประจำปี 2566 ว่า ไทยพีบีเอส ยังคงย้ำจุดยืนการเป็นสื่อสาธารณะที่ยึดโยงกับประชาชน และส่งมอบคุณค่าสาธารณะ 5 ด้าน ได้แก่

  1. คุณค่าของการนำเสนอข่าวสารที่ประชาชนสามารถวางใจและพึ่งพิงได้ ทั้งเมื่อเกิดวิกฤตน้ำท่วม ข่าวปลาหมอคางดำ โดยทำงานบนข้อมูลและรับฟังเสียงของทุกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง ทำให้การนำเสนอครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งผลกระทบต่อชุมชนท้องถิ่น สิ่งแวดล้อม สืบสวนขบวนการที่อยู่เบื้องหลัง

  2. คุณค่าต่อสาธารณะ ด้านการสืบสานถักทอและหยั่งรากทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย เพราะเชื่อว่าเนื้อหาทางวัฒนธรรมคือสะพานที่เชื่อมให้คนที่แตกต่างกันสามารถเข้าใจกันได้ ทั้งในรูปแบบละคร สารคดี ดนตรี

  3. คุณค่าด้านการให้สารประโยชน์และความบันเทิงที่คุ้มค่า เช่น ผลสำรวจจากผู้ชมร้อยละ 85.7 ให้ไทยพีบีเอสเป็นสื่อที่สร้างสรรค์สาระบันเทิงที่แตกต่าง ร้อยละ 86.5 ยอมรับว่าละครไทยพีบีเอสสร้างแง่คิดเชิงบวกแก่สังคม

  4. คุณค่าด้านการส่งเสริมการเรียนรู้ เป็นโรงเรียนของสังคม โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มเด็กเล็กและวัยเรียน ซึ่งเป็นเนื้อหาที่มีการผลิตน้อยในอุตสาหกรรมสื่อทีวีดิจิทัล โดยไทยพีบีเอสเป็นผู้ผลิตเนื้อหาร้อยละ 59 ของสัดส่วนเนื้อหาทั้งหมดในสื่อทีวี

  5. คุณค่าด้านการส่งเสริมสังคมประชาธิปไตย และการมีส่วนร่วม ไทยพีบีเอส ยึดมั่นในการสร้างประชาธิปไตยแบบปรึกษาหารือ และมีความเป็นห่วงสภาพปัจจุบันที่ประชาชนมีแนวโน้มจะเปิดรับฟังแต่สิ่งที่ตนเองอยากได้ยิน หรือ Echo Chamber

โดยมี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ลงชื่ออภิปรายรวม 14 ท่าน ประกอบด้วย

  1. นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพัทลุง พรรคประชาธิปัตย์
  2. นายเอกราช อุดมอำนวย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน
  3. นายธีระชัย แสนแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดอุดรธานี พรรคเพื่อไทย
  4. นายเกียรติคุณ ต้นยาง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนนทบุรี พรรคประชาชน
  5. นายนิพนธ์ คนขยัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดบึงกาฬ พรรคเพื่อไทย
  6. นางสาวสิริลภัส กองตระการ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน
  7. นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย
  8. นายวิทยา แก้วภราดัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ
  9. นายอดิศร เพียงเกษ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย
  10. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย
  11. นางเทียบจุฑา ขาวขำ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดบึงกาฬ พรรคเพื่อไทย
  12. นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน
  13. นายมานพ คีรีภูวดล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน
  14. นางสาวรัชนก ศรีนอก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน

นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดพัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวชื่นชมถึงการทำงานหน้าที่สื่อสาธารณะของไทยพีบีเอส ว่า เป็นสื่อที่มีการทำงานที่ตรงไปตรงมา ซื่อตรง มีการนำเสนอข้อมูลทั่วถึงครอบคลุม และมีส่วนร่วมช่วยขับเคลื่อนประเด็นต่าง ๆ เศรษฐกิจ การเมือง สิ่งแวดล้อม เช่น การจักสานเตยป่า ที่พัทลุง การทำบุญสองศาสนา ทะเลสาบสงชลา สัตว์ป่าหายาก ซึ่งเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจพัทลุงอย่างมาก และอยากให้ไทยพีบีเอสให้ความสำคัญประเด็นเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ ภัยพิบัติ การเมือง เนื้อหาที่สะท้อนถีงเอกลักษณ์ของท้องถิ่นต่อไป

นายเอกราช อุดมอำนวย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน แสดงความชื่นชม ถึงทีมข่าว The Active ที่เป็นการทำข่าวโดยนักข่าวคนรุ่นใหม่ สามารถสะท้อน และนำเสนอถึงประเด็นสำคัญทางสังคมได้เป็นอย่างดี และยังกล่าวชื่นชมถึงแพลตฟอร์ม VIPA ว่าเป็นแพลตฟอร์ม OTT (over-the-top) ที่สามารถแข่งขันกับแพลตฟอร์ม ๆ ของต่างประเทศได้ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี มีวิสัยทัศน์ ในการเป็นช่องทางผลักดัน Soft Power ของไทยได้ รวมถึงเนื้อหาที่เป็นประโยชน์อีกหลายรายการใน Podcast ของไทยพีบีเอส นอกจากนี้ นายเอกราช ได้ตั้งข้อสงสัยถึงแผนงบบุคลากร แผนการดำเนินงานต่อไปเกี่ยวกับ MUX และได้เสนอแนวทางในการกระจายความเป็นสื่อสาธารณะ สู่หน่วยงานในท้องถิ่น

ด้านนายธีระชัย แสนแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดอุดรธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวชื่นชมเล่มรายงานประจำปีที่มีขนาดกะทัดรัด เป็นแบบอย่างที่ดีในการช่วยลดโลกร้อน และชื่นชมถึงผลการดำเนินงานของไทยพีบีเอส ที่มีการบริหารข้อมูลข่าวสารแบบเรียลไทม์ในช่วงการเลือกตั้งปี 2566 การวิเคราะห์สูตรจับขั้วรัฐบาล ซึ่งทำให้คนสนใจการเมืองมากขึ้น เป็นผลดีต่อการพัฒนาการเมือง และเสนอให้มีการสนับสนุนนักข่าวพลเมือง นักข่าวอิสระ มากขึ้น ขอให้ไทยพีบีเอสมุ่งมั่นเพื่อประโยชน์สาธารณะยึดโยงกับประชาชน

 

นายเกียรติคุณ ต้นยาง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนนทบุรี พรรคประชาชน กล่าวชื่นชมถึงรายการสถานีประชาชน และการลงพื้นที่ของสถานีประชาชนสัญจร ที่ช่วยสร้างการตระหนักรู้ถึงภัยในด้านต่าง ๆ ให้แก่ชุมชนได้เป็นอย่างดี และอยากให้มีการทำงานในส่วนนี้เพิ่มมากขึ้น

นายนิพนธ์ คนขยัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดบึงกาฬ พรรคเพื่อไทย กล่าวชื่นชมผลการดำเนินงานของไทยพีบีเอส แต่ขอฝากข้อสังเกตถึงทำข่าว ต้องติดตามวิเคราะห์ เจาะข่าวเพื่อให้มีความจริงตีแผ่สร้างความเป็นธรรม และขอให้ตามต่อให้จบ ไม่หยุดกลางคัน

ด้านนางสาวสิริลภัส กองตระการ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน ชื่นชมไทยพีบีเอส มีการให้ความสำคัญในเรื่องสุขภาพจิต โดยสอดแทรกในเนื้อหารายการต่าง ๆ มากขึ้น การต่อยอดผลงานจากงาน Hack Thailand 2575 สู่แพลตฟอร์ม Policy Watch ที่ให้ประชาชนร่วมติดตามการทำงานของรัฐบาลได้ และการเปิดพื้นที่ให้แก่ผู้ผลิตรายการ และสารคดีทั้งรายใหญ่และรายย่อยอย่างเท่าเทียม โดยเสนอให้ไทยพีบีเอส มีการทำเรื่องสะท้อน ความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุพื้นฐานของอาชญากรรมในหลายคดี และความรุนแรงที่เกินขึ้นในสังคม

ส่วนนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอให้ไทยพีบีเอส มีกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนมากขึ้น มีการส่งเสริม ผลักดันรายการที่มีเนื้อหา Soft Power เช่น รายการเรือยาว กีฬาพื้นบ้าน ให้แพร่หลาย และอยากให้ระมัดระวังเรื่องของรายการที่อาจสร้างความขัดแย้งทางสังคมได้

นางเทียบจุฑา ขาวขำ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดบึงกาฬ พรรคเพื่อไทย กล่าววว่า ชื่นชมรายการไทยพีบีเอส ทำผังรายการดี ชื่นชอบรายการส่งเสริมสุขภาพ อย่างรายการคนสู้โรค ขอฝากให้ไทยพีบีเอสเป็นสื่อที่มุ่งมั่นที่ยึดประชนชนเป็นศูนย์กลาง

นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน กล่าวว่าชื่นชมและเป็นแฟนรายการของไทยพีบีเอส โดยเฉพาะพอดแคสต์ไทยพีบีเอส และรายการจากรากสู่เรา อยากฝากไปถึงรัฐบาลซึ่งขับเคลื่อน Soft Power มีความสอดคล้องกับคอนเทนต์ที่ไทยพีบีเอสทำอยู่ ดังนั้นเสนอว่าไม่ควรเปิดแพลตฟอร์มใหม่ที่ไม่จำเป็น เสนอให้ยกระดับ Thai PBS World โดยรัฐบาลร่วมมือกับไทยพีบีเอส ยกระดับคุณค่าการท่องเที่ยว สังคม วัฒนธรรม จะช่วยให้เกิดการส่งเสริมความเข้าใจคนในสังคม ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ลดช่องว่างไม่ให้เกิดการทุจริตในอนาคต และอยากให้ไทยพีบีเอส สนับสนุนการผลิตรายการเกี่ยวกับสุราชุมชน เพื่อไม่ให้สุราไทย สุราชุมชนสูญพันธุ์ไปจากประเทศไทย


จากนั้น รศ. ดร.วิลาสินี พิพิธกุล ได้ชี้แจงการอภิปราย ในประเด็นต่าง ๆ ว่า ไทยพีบีเอสให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมคนไทย ดังเช่น ในสถานการณ์ภัยพิบัติ มีพื้นที่ในการสนับสนุน เตรียมคนในสังคมให้พร้อมกับรับมือในสถานการต่าง ๆ รับมือความเสี่ยงได้ด้วยตัวเอง องค์กรท้องถิ่นสามารถจัดบริหารจัดการเองได้ หรืออย่างการติดตามปัญหา ก็จะไม่ได้หยุดแค่การรายงาน แต่ชวนทุกฝ่ายหาทางออก ในส่วนของการผลักดัน Soft Power นั้น ได้จัดให้เป็นวาระหลักขององค์กร ในบทบาทของการเป็น "สะพานเชื่อมทุนทางวัฒนธรรม" เช่นเดียวกับเรื่องสุขภาพจิต ที่เป็นวาระหลักขององค์กร มีการดำเนินการในปีนี้แล้ว เช่น กิจกรรม Hack ใจ โครงการ Happy Land แดน (เคย) สุขใจ และจะยังคงดำเนินการต่อเนื่องในปีหน้าด้วยเช่นกัน ส่วนเนื้อหาอื่น ๆ เช่น ประวัติศาสตร์ ท้องถิ่น เกษตร หรือการยกระดับ Thai PBS World ขอน้อมรับในคำเสนอแนะ และจะไปดำเนินการต่อไป

นอกจากนี้ รศ. ดร.วิลาสินี ยังได้ชี้แจงถึงแผนการดำเนินการช่อง ALTV ว่าเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องทำ เพื่อตอบสนองการเรียนรู้ของเด็ก ซึ่งแม้ช่อง ALTV จะเป็นช่องที่มีเนื้อหาเฉพาะกลุ่ม จึงมีผู้ชมจำนวนไม่มาก แต่มีการเติบโตของเรตติ้งสูง ถึง 8% สวนทางกับช่องอื่น ๆ โดยหลังจากนี้ จะได้มีการเตรียมทำการศึกษา ประเมินการบริหารช่อง ALTV และลองวิธีการทำงานรูปแบบใหม่ ๆ ในกลุ่มเฉพาะ เพิ่มเติม รวมถึงการขยายความร่วมมือ กับกลุ่ม EdTech (Educational Technology) เพื่อร่วมกันพัฒนาการศึกษา และกระจายการเข้าถึงให้ง่าย และกว้างขวางยิ่งขึ้น ภายใต้งบประมาณที่จำกัด

ในส่วนของข้อห่วงใยในเรื่องของความเป็นกลางของไทยพีบีเอสนั้น รศ. ดร.วิลาสินี ชี้แจงว่า จากผลประเมินไทยพีบีเอสในทุก ๆ ปี จะสะท้อนว่า ไทยพีบีเอส เป็นสื่อที่มีการนำเสนออย่างตรงไปตรงมา และ ไทยพีบีเอสได้มีการจัดทำวิจัยแบบ Content Analysis ที่ติดตามการทำงานในประเด็นใหญ่ เช่น เรื่องเลือกตั้ง 2566 ที่ผลงานวิจัยยืนยัน ว่าไทยพีบีเอสเป็นสื่อเดียว ที่เปิดพื้นที่ให้กับทุกพรรคการเมืองอย่างเท่าเทียม และมีข้อมูลจากทุกภาคส่วนค่อนข้างครบถ้วนที่สุด นอกจากนี้ ไทยพีบีเอส มีอนุกรรมการรับเรื่องร้องเรียน ที่จะเป็นทำหน้าที่ในการพิจารณาตรวจสอบ การทำงานของไทยพีบีเอสอีกหนึ่งช่องทาง ซึ่งจะเป็นกลไกที่ช่วยให้ผู้ชมสามารถมั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่สื่อของไทยพีบีเอสได้มากขึ้น แต่ทั้งนี้จะขอน้อมรับนำเอาข้อห่วงใยนี้ ไปเน้นย้ำกับกองบรรณาธิการข่าวให้มีความระมัดระวังในเรื่องนี้มากยิ่งขึ้น

นายอนุพงษ์ ไชยฤทธิ์ กรรมการบริหาร และ รองผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ด้านปฏิบัติการและเทคโนโลยี ได้กล่าวถึง แนวทางการดำเนินการโครงข่ายทีวีดิจิทัล ว่าไทยพีบีเอสได้มีทดลองการออกอากาศในระบบ 4K ไปแล้ว และอยู่ระหว่างการหารือร่วมกันกับ กสทช. มองว่า การออกอากาศในระบบ 4K จะเป็นโอกาสในการนำเสนอ ประสบการณ์ให้แก่ผู้ชมในอนาคต

ส่วน นางสาวกนกพร ประสิทธิ์ผล กรรมการบริหาร ส.ส.ท. และผู้อำนวยการสำนักสื่อดิจิทัล ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับ VIPA ที่เป็นบริการ Video Streaming Platform ว่า มีผู้เข้าชมในปี 2566 กว่า 9 ล้าน pageviews โดยได้มีการพัฒนาเนื้อหารายการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีรายการบรรจุอยู่ ถึง 238 รายการ กว่า 1,238 วีดีโอ ซึ่งมีบริการทั้งภาษาไทย และภาษาต่างประเทศ รวมถึงบริการภาษามือ Big Sign และบริการเสียงบรรยายภาพ ซึ่งบริการเหล่านี้ ไม่เพียงอยู่บน VIPA เท่านั้น แต่มีอยู่ในทุก ๆ Digital Platform ของไทยพีบีเอส เพราะต้องการให้ประชาชนสามารถเข้าถึงเนื้อหา รายการ ข่าวสารที่เป็นประโยชน์ได้อย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะมีข้อจำกัดใด ๆ

รศ. ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ กรรมการนโยบาย ส.ส.ท. กล่าวขอบคุณ สส.ทุกท่านที่ใส่ใจการดำเนินงานของไทยพีบีเอส จะนำเอาข้อคิดเห็นที่ได้ให้แก่ไทยพีบีเอสนำไปปฏิบัติเพื่อเกิดประโยชน์สูงสุด โดยจะยังคงยึดมั่นในการเป็นสื่อสาธารณะที่ยึดโยงกับประชาชน มุ่งมั่นทำงานสื่อสารมวลชน เพื่อประเทศร่วมกัน

คลิปรายงานผลการปฏิบัติงานของ ส.ส.ท. ประจำปี 2566 ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร

สามารถติดตามไทยพีบีเอสทุกช่องทางออนไลน์ ได้ที่

▪ Website : www.thaipbs.or.th   
▪ Application : Thai PBS
▪ Social Media Thai PBS : Facebook, YouTube, X , LINE, TikTok, InstagramThreadsLinkedin

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวประชาสัมพันธ์

บทสัมภาษณ์ผู้บริหาร

ข่าวกิจกรรม

กลับขึ้นด้านบน