“ณัฐวุฒิ อุปปะ” ได้รับเลือกเป็นประธานสภาผู้ชมและผู้ฟังรายการไทยพีบีเอสคนใหม่

สภาผู้ชมและผู้ฟังรายการ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือ ไทยพีบีเอส ได้จัดการประชุมสามัญสภาผู้ชมและผู้ฟังรายการ ส.ส.ท. ครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 29 - 30 มกราคม 2565 ณ โรงแรมไมด้า ดอนเมือง แอร์พอร์ต โฮเต็ล หลักสี่ กรุงเทพฯ โดยมีการสรรหาประธานสภาผู้ชมและผู้ฟังรายการ ส.ส.ท. คนใหม่ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการสรรหา และวิธีการดำเนินการของสภาผู้ชมและผู้ฟังรายการ พ.ศ.2564

โดยได้ นายณัฐวุฒิ อุปปะ ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้ชมและผู้ฟังรายการ ส.ส.ท. ทดแทน นายชำนัญ ศิริรักษ์ ที่ลาออกจากตำแหน่ง พร้อมแต่งตั้งรองประธานสภาผู้ชมและผู้ฟังรายการ รุ่นที่ 6 จำนวน 2 คน ได้แก่ นางสาวบัณฑิดา อย่างดี และ นายจารุเดช แสนสุข เป็นรองประธานสภาผู้ชมและผู้ฟังรายการ ซึ่งมีประกาศองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย เรื่องแต่งตั้งประธานและรองประธานสภาผู้ชมและผู้ฟังรายการ รุ่นที่ 6 เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา

(นายณัฐวุฒิ อุปปะ ประธานสภาผู้ชมและผู้ฟังรายการ ส.ส.ท.)

(ประกาศองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย เรื่อง แต่งตั้งประธาน และรองประธานสภาผู้ชมและผู้ฟังรายการ รุ่นที่ 6)

นอกจากนี้ สภาผู้ชมและผู้ฟังรายการไทยพีบีเอส ยังได้จัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ “เหลียวหลัง” : ถอดบทเรียนการทำงานในรอบปี พ.ศ. 2564 โดยมีตัวแทนสมาชิกสภาผู้ชมและผู้ฟังรายการจากแต่ละภูมิภาค ร่วมถอดบทเรียนและแลกเปลี่ยนถึงการทำงานร่วมกันที่ผ่านมา โดย นายวิศรุต สมงาม จังหวัดลพบุรี ตัวแทนสภาผู้ชมและผู้ฟังรายการภูมิภาคภาคกลาง กล่าวถึงการถอดบทเรียนในครั้งนี้ว่า

กิจกรรมถอดบทเรียนนี้ เป็นการสกัดเรื่องราวและบทเรียนที่เกิดมาตลอดทั้งปี 2564 ทั้งในประเด็นต่าง ๆ ที่ได้ดำเนินการไปแล้ว ข้อเสนอแนะ และสิ่งที่ต้องพัฒนาการทำงานหลังจากนี้ สิ่งที่น่าสนใจจากการถอดบทเรียนก็คือ มีรูปแบบกิจกรรมที่เน้นการสื่อสารแลกเปลี่ยนระหว่างกัน เพื่อสะท้อนเป้าหมายว่า สภาผู้ชมและผู้ฟังรายการกำลังมุ่งเน้นขับเคลื่อนงานการลดความเหลื่อมล้ำ และกระจายอำนาจไปยังภูมิภาค รวมถึงการสร้างการมีส่วนร่วม โดยจับมือกับ ส.ส.ท. และเครือข่ายในพื้นที่ให้มากขึ้น เสียงของประชาชนจะมีความหมายมากขึ้นก็ต่อเมื่อมีคนฟัง และในฐานะที่สภาผู้ชมและผู้ฟังรายการเป็นตัวแทนของประชาชน ก็จะต้องทำหน้าที่รับฟังปัญหาที่แท้จริงจากคนในพื้นที่

 

ทางด้าน นายนิวัฒน์ ชัยยะ สมาชิกสภาผู้ชมและผู้ฟังรายการกรุงเทพและปริมณฑล กล่าวว่า

บทบาทของสภาเป็นตัวเชื่อมระหว่างประชาชนกับสื่อสาธารณะ โดยมีการเน้นประเด็นเรื่องการศึกษา พหุวัฒนธรรม เรื่องสังคม และเรื่องโควิด–19 ที่เป็นสถานการณ์ต่อเนื่องจากปีที่แล้ว การถอดบทเรียนนี้เป็นการแลกเปลี่ยนถึงการทำงานว่าสภาผู้ชมและผู้ฟังรายการได้ทำหน้าที่ได้ตามกรอบการทำงานของสภาผู้ชมและผู้ฟังรายการหรือไม่ เป้าหมายในอนาคตคืออะไร มีปัญหาและอุปสรรคอย่างไร ซึ่งวันนี้ก็เป็นโอกาสที่ได้มาแลกเปลี่ยน และเปิดใจระหว่างสมาชิกสภาผู้ชมและผู้ฟังรายการร่วมกัน

 

ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของสภาผู้ชมและผู้ฟังรายการไทยพีบีเอส ได้ที่ sapa.thaipbs.or.th

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวประชาสัมพันธ์

บทสัมภาษณ์ผู้บริหาร

ข่าวกิจกรรม

กลับขึ้นด้านบน